วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความรู้ในห้องเรียน วันที่ 25 มิ.ย.2556

           ความรู้ที่ได้ในห้องเรียน
ภาษาคือ คำพูดที่ใช้สื่อสารกันเป็นเสียงพูดที่มีระเบียบ และมีความหมายซึ่งมนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารความคิด ความรู้สึก ความต้องการและใช้ในการประกอบกิจกรรมร่วมกัน
ลักษณะสำคัญของภาษาไทย
1.คำไทยมีลักษณะเป็นคำโดด ส่วนมากมีพยางค์เดียว
2.คำไทยและละคำมีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องมีการปรับรูปคำเมื่อนำไปใช้รูปแสดงความเป็นพจน์ หรือ กาล
3.ภาษาไทยจะสกดตรงตามมาตราทั้ง 8 แม่ ได้แก่
  แม่ กก คำที่ใช้ ก สะกด เช่น นก  หก
  แม่กด คำที่ใช้ ด สะกด เช่น รด  สด
  แม่กบ คำที่ใช้ บ สะกด  เช่น รบ จบ
  แม่กง คำที่ใช้ ง สะกด  เช่น จด กด
  แม่กน คำที่ใช้ น สะกด  เช่น จน หน
  แม่กม คำที่ใช้ ม สะกด เช่น จม  ชม
  แม่ เกย คำที่ใช้ ย สะกด เช่น ชาย  คาย
  แม่เกอว คำที่ใช้ ว สะกด ชาว กาว
คำที่สะกดไม่ตรงตามมาตราถือเป็นภาษาต่างประเทศ
4.ภาษาไทยมีการเรียงคำเป็นS, v ,o
5.มีเรื่องของระดับภาษา คือ ทางการ กึ่งทางการ พิธีการ สนทนา และกันเอง
6.ภาษาไทยมีลักษณะนาม เป็นคำที่ใช้ตามหลังจำนวนที่เราพูดถึง
7.ภาษาไทยมีวรรคตอนในการพูดและการเขียน ถ้ามีการพูดหรือเขียนผิดวรรคตอนก็อาจทำให้ความหมายเปลี่ยนได้
8.คำเดียวมีความหมายได้หลายหน้าที่ เช่น คำนาม สรรพนาม อาทิ ตา(นาม)
9.ภาษาไทยส่วนใหญ่มักไม่ใช้ตัวการันต์
เสียงต่างๆที่ทำให้เกิดเสียงในภาษาไทย
คือเสียง พยัญชนะ สระและวรรณยุกต์ พยัญชนะไทยมี 44 รูป 21 เสียง
คขฆ(ฅฃ)
ชฉฌ
ซ(สษศ)
ดฎฑ
ทถฐธฑฒ
นณ
พผภ
ฟฝ
ยญ
ลฬ
ฮห
อักษรนำมีอยู่5+1
(อักษรนำสามารถทำให้เราสังเกตุภาษาต่างประเทศได้)
สระมี21รูป21เสียง
เพราะมีสระเกิน คือคำที่ออกเสียงสระอื่นซ้ำ
สระประสม มี เอียะ อัวะ เอือะอำ ไอ ใอ เอา ฤฤา ฦฦา

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความรู้ในห้องเรียนที่ 18 มิ.ย. 2556

                                                                ความรู้ที่ได้ในห้องเรียน
วันที่  18 มิถุนายน 2556

1. รู้ความหมายของคำว่า  วิ  แปลว่า ความยิ่งใหญ่
2. คำไทยสะกดตรงตามมาตรา เช่น  ผัว เมีย
3. คำบาลี สันสฤตผันได้ 8 รูป 8 หน้าที่
4. คนไทยในสมัยก่อนเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน ชอบแต่งกลอน
5. จุดกำเนิดของคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไตในทางทฤษฏี
6. คนไทยที่อพยบไปอยู่ประเทศอินเดียเรียกไทยอาฮม
7. ดินแดนสุวรรณภูมิเป็นเขตการปกครองของเขมร ดังสัญลักษณ์ที่เห็นในปัจจุบันคือ พระปรางค์สามยอด  ศาลพระกาฬ และปรางค์แขก
8.แหล่งการเรียนรู้เมื่อก่อนอยู่ที่เขาสมอคอน(เชื่อกันว่าพ่อขุนรามเคยมาศึกษาเล่าเรียนที่นี่)
9. คนไทยรวมกลุ่มกันรับวัฒนธรรมต่างๆและได้ตั้งเมืองสุโขทัยขึ้น
10. อักษรไทยครั้งแรกมีประมาณ10 กว่าตัวเพราะคนไทยใช้คำซำกัน
11. อยุธยารับวัฒนธรรมของเขมรเข้ามาเต็มๆ  คำราชาศัพท์มีเยอะขึ้น
12. รัชการที่4ได้คิดค้นอักษรอริยะกะ แต่ไม่นิยมใช้เพราะเป็นอักษรที่ใช้ยากและไม่คุ้นเคย
13. ภาษาไทยเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในสมัยจอมพลป.พิบูลสงคราม

ความหมายของภาษา

   ความหมายของภาษา
ความหมายของภาษา      ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน(2531:608)ได้ให้ความหมายของคำว่าภาษา ไว้ 3 ความมหมายคือ 
1)            ภาษาเป็นคำนามหมายถึง เสียงหรือท่าทางหรือกิริยาอาการใดก็ตามที่มนุษย์ใช้เพื่อทำความเข้าใจได้  ได้แก่ คำพูด หรือถ้อยคำที่ใช้พูดกันด้วย
2)            เป็นความหมายโดยปริยาย  หมายถึงคน หรือชาติที่พูดภานั้น เช่น แต่งตัว ตามภาษา
3)            หมายถึงมีความรู้ความเข้าใจ อาจยกตัวอย่างได้เช่น ทำอะไรอย่างกับคนรู้ภาษา 
   สำหรับภาษาที่จะอภิปรายกันในที่นี้เป็นภาตามความหมายที่ 1 พอสรุปได้ว่า      ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ภาษาหมายถึงสิ่งใดก็ตามที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน อาจเป็นเสียง ท่าทาง หรือกิริยาอาการ  จึงอาจกล่าวได้ว่าภาษาในที่นี้ อาจเป็นภาพูด ภาษาเขียน หรือภาษามือก็ได้

 ความหมายของภาษ
     ภาษา  เมื่อแปลตามรูปศัพท์หมายถึง คำพูดหรือถ้อยคำ ภาษาเป็นเครื่องมือของมนุษย์ที่ใช้ในการสื่อความหมายให้สามารถติดต่อสื่อสาร เข้าใจกันได้ โดยมีระเบียบของเสียงและเรื่องของคำเป็นเครื่องกำหนด ในพจนาณุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. 2525 ใหความหมายของคำว่าภาษาคือเสียงหรือกิริยาอาการที่ทำความเข้าใจกันได้ คำพูด ถ้อยคำที่ใช้พูดจากัน
    ภาษาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ วัจนภาษา และ อวัจนภาษา
1. วัจนภาษา เป็นภาษาที่พูดโดยใช้เสียงที่เป็นถ้อยคำ สร้างความเข้าใจกัน มีระเบียบในการใช้ถ้อยคำในการพูด นอกจากนั้นยังเป็นหนังสือที่ใช้แทนคำพูด คำที่ใช้เขียนจะเป็นคำที่เลือกสรรแล้ว มีระเบียบในการใช้ถ้อยคำในการเขียนและการพูดตามหลักภาษา
2. อวัจนภาษา เป็นภาษาที่ใช้สิ่งอื่นนอกเหนือจางคำพูดและตัวหนังสือในการสื่อสารเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจ ภาษาที่ไม่เป็นถ้อยคำได้แก่ ท่าทางการแสดงออก การใช้มือใช้แขนประกอบการพูดหรือสัญลักษณ์ต่างๆที่ใช้ในการสื่อสารสร้างความเข้าใจ เช่น สัญญานไฟจราจร สัญญานธง เป็นต้น
   ภาษามีความสำคัญต่อมนุษย์มาก เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือในการสื่อสารแล้ว ยังเป็นเครื่องมือแห่งการเรียนรู้และการพัฒนาความคิดของมนุษย์และเป็นเครื่องมือถ่ายทอดวัฒนธรรมและการประกอบอาชีพ และที่สำคัญก็คือ ภาษาช่วยสร้างเสริมความสามัคคีของคนในชาติอีกด้วย เพราะภาษาเป็นถ้อยคำที่ใช้ในการสื่อสารสร้างความเข้าใจกันในสังคม
ที่มา :www. nungruatai11.wordpress.com

ภาษาในความหมายอย่างกว้าง หมายถึง กริยาอาการที่แสดงออกมาแล้วสามารถทำความเข้าใจกันได้ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ มนุษย์กับสัตว์ หรือสัตว์กับสัตว์ ส่วนภาษาในความหมายอย่างแคบนั้น หมายถึง เสียงพูดที่มนุษย์ใช้สื่อสารกันเท่านั้น
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ. 2542 ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า ภาษา ไว้ว่า "ถ้อยคำที่ใช้พูดหรือเขียนเพื่อสื่อความของชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เช่น ภาษาไทย ภาษาจีน หรือเพื่อสื่อความเฉพาะวงการ เช่น ภาษาราชการ ภาษากฎหมาย ภาษาธรรมเสียง ตัวหนังสือ หรือกิริยาอาการที่สื่อความได้ เช่น ภาษาพูด ภาษาเขียน ภาษาท่าทาง ภาษามือ"
วิชาที่ว่าด้วยการศึกษาภาษาในแง่ต่างๆ เรียกว่า "ภาษาศาสตร์" เริ่มบุกเบิกโดยแฟร์ดินอง เดอ โซซูร์ (Ferdinand de Saussure) บุคคลที่พูดภาษาใดก็ตาม ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเชิงภาษาศาสตร์ของภาษานั้น ๆ
ที่มา: th.wikipedia.org
             

ความหมายของEducation



EDUCATION
EDUCATION. Americans have long invested importance in education as a means of social improvement and individual fulfillment. Education has entailed both formal instruction in schools, universities, and other institutions, and informal learning in a variety of settings. Schools were respected institutions early in American history, and their significance has grown with time. Education and schooling have also been at the center of social and political conflict, often over issues of status and inequality. Schools eventually became instruments of government social policy, utilized to offset historic inequities and to help achieve social justice. Education also contributed human capital to the nation's economy. In the nineteenth century, reformers focused on training reliable workers; in the twentieth century, schools prepared men and women for office and professional employment. At the same time, education has been a vital element of social and economic mobility for generations of Americans.


Historically, the primary schools were the objects of the nation's first great era of education reform. Next came secondary schools, which grew most rapidly during the early twentieth century, and colleges and universities expanded notably in the years following World War II. Schools at all levels have been indispensable to the formation of a national identity for Americans throughout history. From the very earliest stages of the new republic, schools have helped to foster loyalty to the principles of democratic governance, and to the particular tenets of American nationalism. They also have served as a forum for debate over the evolution of these principles.
การศึกษา(Education)
การศึกษา ชาวอเมริกันมีการลงทุนความสำคัญในด้านการศึกษาเป็นวิธีการของการพัฒนาสังคมและความสำเร็จของแต่ละบุคคล การศึกษาได้ยกให้ทั้งการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการในโรงเรียนมหาวิทยาลัยและสถาบันอื่น ๆ และการเรียนรู้ทางการในความหลากหลายของการตั้งค่า โรงเรียนเป็นสถาบันที่เคารพนับถือในช่วงต้นของประวัติศาสตร์อเมริกันและความสำคัญของพวกเขาได้เติบโตขึ้นกับเวลา การศึกษาและการเรียนการสอนก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งทางสังคมและการเมืองที่มักจะประเด็นเรื่องของสถานะและความไม่เท่าเทียมกัน โรงเรียนในที่สุดกลายเป็นเครื่องมือของนโยบายทางสังคมที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อชดเชยความไม่เสมอภาคทางประวัติศาสตร์และเพื่อช่วยให้บรรลุความยุติธรรมทางสังคม การศึกษาก็มีส่วนทุนมนุษย์ที่มีต่อเศรษฐกิจของประเทศ ในศตวรรษที่สิบเก้าปฏิรูปมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมคนงานความน่าเชื่อถือในศตวรรษที่ยี่สิบโรงเรียนเตรียมชายและหญิงสำหรับการจ้างงานในสำนักงานและเป็นมืออาชีพ ในขณะเดียวกันการศึกษาได้รับองค์ประกอบที่สำคัญของการเคลื่อนไหวทางสังคมและเศรษฐกิจสำหรับคนรุ่นของชาวอเมริกัน
ในอดีตโรงเรียนประถมศึกษาเป็นวัตถุของยุคที่ดีของประเทศเป็นครั้งแรกของการปฏิรูปการศึกษา ต่อมาก็เป็นโรงเรียนมัธยมซึ่งขยายตัวมากที่สุดอย่างรวดเร็วในช่วงต้นศตวรรษที่ยี่สิบและวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยการขยายตัวที่โดดเด่นในช่วงปีหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โรงเรียนในทุกระดับได้รับขาดไม่ได้ในการก่อตัวของเอกลักษณ์ประจำชาติสำหรับชาวอเมริกันตลอดประวัติศาสตร์ จากขั้นตอนมากที่สุดของสาธารณรัฐใหม่ที่โรงเรียนได้ช่วยที่จะส่งเสริมความจงรักภักดีต่อหลักการของระบอบการปกครองและหลักการเฉพาะของอเมริกันชาตินิยม พวกเขายังได้ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับการอภิปรายในช่วงวิวัฒนาการของหลักการเหล่านี้


                                                   นางสาวกมลชนก  คำนวนศักดิ์ รหัส 56115550108